Skin & Surface


     ผิว     
เทคนิค! การเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า "เพื่อหน้าสวยที่ยาวนาน"
วันนี้จะมาเผยเทเทคนิคการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าเพื่อให้คุณผู้หญิงทั้งหลายได้มีหน้าสวยที่ยาวนานมากยิ่งขึ้นค่ะ การเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า นั้นใครว่าไม่สำคัญค่ะ คุณกำลังคิดผิดแล้วล่ะค่ะ เพราะ การเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า นั้นมีส่วนอย่างมากเลยทีเดียวที่จะช่วยให้การแต่งหน้าของเป็นไปอย่างราบรื่น ลดเวลา และแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญ การเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า ยังมีส่วนช่วยให้การแต่งหน้าของคุณผู้หญิงติดทนนานขึ้นอีกด้วยค่ะ เมื่อการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าสำคัญขนาดนี้มีหรือที่จะไม่นำมาฝากคุณผู้หญิงผู้รักการแต่งหน้าขนาดไหนกันเอ่ย ว่าแล้วเรามาดูเทคนิคการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าที่นำมาฝากกันเลยดีไหมค่ะ ว่าการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้านี้จะมีกันสักกี่ขั้นตอนกันน๊า...


5 เทคนิค เตรียมผิวก่อนแต่งหน้า


ขั้นตอนที่ 1 ขัดผิว


หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้วก็ตามด้วยสครับแบบที่เป็นผงขัดเม็ดละเอียดหรือจะใช้แบบชนิดน้ำที่ใช้กรดบางชนิดในการขัดลอกผิวก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากลดขั้นตอนในการล้างหน้าลงก็ใช้แบบที่เป็นเคลนเซอร์และตัวขัดลอกผิวในขวดเดียวกัน



ขั้นตอนที่ 2 โทนเนอร์และซีรั่ม


ถ้าคุณเป็นคนผิวมันหรือมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวง่าย คุณก็ควรตามด้วยโทนเนอร์หลังล้างหน้า จากนั้นก็ตามด้วยซีรั่มในสูตรที่ผิวหน้าของคุณต้องการเพื่อเป็นการเติมสารบำรุงให้แก่ผิว สาวที่ไม่มีปัญหาเรื่องผิวมันอาจจะไม่ต้องใช้โทนเนอร์ก่อนก็ได้



ขั้นตอนที่ 3 มอยสเจอไรเซอร์

ความชุ่มชื้นบนผิวหน้ามีส่วนทำให้คุณสามารถระบายสีสันต่างๆ บนใบหน้าได้อย่างเรียบเนียน เพราะฉะนั้นนี่คือขั้นตอนที่คุณไม่ควรละเลยเด็ดขาด

ขั้นตอนที่ 4 ครีมกันแดด

นี่เป็นอีกหนึ่งขึ้นตอนที่คุณไม่ควรละเลยในการปกป้องผิว

ขั้นตอนที่ 5 รองพื้น

จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้นกว่าเดิมเยอะ จากนั้นก็เริ่มระบายสีสันบนใบหน้าได้เลย

ขอขอบคุณข้อมูลผิวสวยผิวขาวจาก lisa ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต







วิธีล้างหน้าอย่างไรให้สะอาด ถูกต้อง "มีคำตอบ!!!"



ล้างหน้าอย่างไรให้สะอาด ถูกวิธี มีคำตอบมาตอบสาวๆ กันค่ะ เพราะมีสาวๆ หลายท่านถามกันเข้ามาเหลือเกินว่า ล้างหน้าอย่างไรให้สะอาด ล้างหน้าอย่างไรให้ถูกวิธี วันนี้จึงหาคำตอบมาตอบสองคำถามนี้ ล้างหน้าอย่างไรให้สะอาด ล้างหน้าอย่างไรให้ถูกวิธี เชื่อว่าบทความที่นำมาฝากกันในวันนี้จะต้องไขปัญหาของคุณสาวๆ ถึงเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอนค่ะ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น เคล็ดลับ ล้างหน้าอย่างไรให้สะอาด ล้างหน้าอย่างไรให้ถูกวิธี นี้ยังช่วยให้ผิวหน้าของคุณสาวๆ สวยใสได้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวอีกด้วยนะจ๊ะ เพราะปัญหาผิวไม่สวยส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาขั้นตอนแรกที่คุณผู้หญิงนั้นดูแลไม่ค่อยจะดี แต่เพื่อป้องกันการเกิดปัญหากับผิวหน้าที่ไม่ว่าจะเป็น สิวต่างๆ หรือผิวไม่สดใส ก็ควรหันมาเริ่มต้นขั้นแรกอย่างถูกต้งและสะอาดหมดจรดเพื่อผิวที่สวยสดใสในขั้นต่อไปกันค่ะ นั้นตอนนี้เรามาไขคำถามที่คุณผู้หญิงถามกันเข้ามาเยอะอย่าง ล้างหน้าอย่างไรให้สะอาด ล้างหน้าอย่างไรให้ถูกวิธี กันดีกว่าค่ะ




9 ล้างหน้าอย่างไรให้สะอาด ถูกวิธี


1. เช็ดคราบเครื่องสำอางออกจากใบหน้า


โดยใช้สำลีและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ครีมเป็นตัวช่วย ขั้นตอนนี้นับว่าเป็นการเช็ดคราบเครื่องสำอางในขั้นแรก โดยพยายามเช็ดออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ต้องทำอย่างเบามือ การถูแรงๆ ทำให้ผิวเสี่ยงเกิดริ้วรอยได้


2. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น

เพื่อเปิดรูขุมขนอันจะทำให้คลีนเซอร์ที่จะใช้ทำความสะอาดผิวหน้าในขั้นตอนต่อไป สามารถเข้าทำความสะอาดผิวหน้าได้ล้ำลึกขึ้น

3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน

ซึ่งส่วนใหญ่มักจะระบุว่าเป็นประเภทไม่มีส่วนผสมของสบู่ (soap-free) และไม่ทำให้เกิดสิว  (non-comedogenic) หากใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่แรงเกินไป อาจทำลายน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติและเกิดปัญหาผิวแห้งตามมาได้

4. ล้างมือให้สะอาด

ก่อนที่จะนวดผลิตภัณฑ์ล้างหน้านั้นลงบนผิวหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งสกปรกที่อาจปนเปื้อนที่มือจะไม่สัมผัสถูกผิวหน้าได้ นับว่าขั้นนี่เป็นขั้นตอนสำคัญที่ห้ามมองข้ามเลยทีเดียว

5. นวดผิวหน้าที่มีผลิตภัณฑ์ล้างหน้าอยู่


โดยนวดวนในทิศทางย้อนขึ้นอย่างเบามือ พยายามไม่ลงน้ำหนักมือแรงเพราะนอกจากผิวจะเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ด้วย


6. ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด


จนมั่นใจว่าไม่มีคราบของผลิตภัณฑ์ล้างหน้าหลงเหลืออยู่ แม้จะเป็นสูตรอ่อนโยน แต่คราบที่ล้างออกไม่สะอาดนี้ ก็เป็นสาเหตุให้เกิดสิวและอาการระคายเคืองได้


7. เช็ดหน้าให้แห้ง


โดยใช้ผ้าขนหนูซับเบาๆ ห้ามเช็ดหน้าโดยการใช้ผ้าขนหนูถูไปถูมาเด็ดขาด


8. ใช้สำลีชุบโทนเนอร์เช็ดผิวหน้า


โดยเลือกใช้โทนเนอร์สูตรที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ซึ่งอาจทำให้ระคายเคืองผิว หากต้องการโทนเนอร์ที่ช่วยเรื่องกระชับรูขุมขนด้วยลองเลือกสูตรที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิกหรืออัลฟาไฮดรอกซิล ซึ่งจะทำงานในเรื่องของการกระชับรูขุมขนได้ดี ทั้งยังช่วยเรื่องป้องกันเส้นขนคุดบนใบหน้าอันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวหัวดำได้


9. ขั้นตอนสุดท้าย


เติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ ลองเลือกใช้แบบที่เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดี อย่างมอยส์เจอไรเซอร์ที่มี วิตามินอี หรือ อโลเวรา


ขอขอบคุณข้อมูลผิวสวยผิวขาวจาก lisa ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต




การเลือกครีมรองพื้น "ให้เหมาะกับคุณ"





การเลือกครีมรองพื้นให้เหมาะกับตัวเองนั้น ไม่ยากค่ะแต่หากคุณอาจจะรู้สึกสับสนเพราะว่า ครีมรองพื้นนั้นมีหลากหลายรูปแบบเหลือเกินไม่ว่าจะเป็น ชนิดน้ำ ชนิดแท่ง แบบแป้งฝุ่น และแบบครีม คุณคงจะตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกซื้อครีมรองพื้นแบบไหนดี ฉะนั้นคุณควรจะต้องเลือกครีมรองพื้นให้เหมาะกับสีผิวของคุณด้วยวิธี การเลือกครีมรองพื้น ที่เราจะบอกคุณต่อไปนี้ค่ะ


การเลือกครีมรองพื้น

ถ้าคุณผิวแห้ง เลือกแบบที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นแต่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ครีมรองพื้นในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่มักจะมีระบบปล่อยความชุ่มชื้นตามระยะเวลาซึ่งจะช่วยเติมความชุ่มชื้นได้อย่างต่อเนื่อง



ถ้าคุณผิวมัน เลือกแบบที่มีส่วนผสมของน้ำ (เพราะแบบที่มีน้ำมันมักจะทำให้เกิดสิว) ซึ่งก็หมายความว่าคุณจะไม่ต้องเจอกับปัญหาสิวอุดตันหรือสิวหัวดำในภายหลัง แป้งผสมรองพื้นหรือรองพื้นชนิดน้ำจะช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูเนียนเรียบเป็นธรรมชาติได้ดีที่สุด



ถ้าอยากให้เห็นริ้วรอยน้อยลง ก็มองหาครีมรองพื้นแบบที่ช่วยกระจายแสงอ่อน ๆ ที่จะช่วยสะท้อนแสงที่ตกกระทบใบหน้าอย่างนุ่มนวลซึ่งทำให้เห็นริ้วรอยบนใบหน้าน้อยลง



ถ้าอยากปกปิดสีผิวที่ดูไม่เรียบ ก็เลือกใช้แบบที่ปกปิดได้เต็มที่ไม่ว่าจะเป็นแบบครีมหรือแบบแท่ง เพราะเป็นแบบที่ช่วยปกปิดข้อบกพร่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต


เคล็ดลับ วิธีเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิว


วันนี้มีวิธีเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิวมาฝากคุณผู้หญิงทั้งหลายค่ะ เพราะมีคุณผู้หญิงหลายๆ ท่านถามกันเข้ามากเหลือเกินว่า วิธีเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิว นั้นมีเคล็ดลับอย่างไรบ้าง ได้กฤษ์ดีจึงไปเสาะแสวงหาเคล็ดลับ วิธีเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิว มาฝากคุณผู้หญิงทุกท่านที่กำลังมองหา เคล็ดลับ วิธีเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิว นี้กันอยู่ค่ะ เชื่อว่า ข้อมูลที่นำมาฝากกันในวันนี้น่าจะช่วยให้วิธีการเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิวของคุณผู้หญิงหลายๆ ท่านเป็นไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้นค่ะ สำหรับคุณผู้หญิงที่ยังสงสัยในเรื่องวิธีการเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิวกันอยู่ล่ะก็ วันนี้มาไขคำตอบคาใจไปพร้อมๆ กับเคล็ดลับ วิธีเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิว กันเลยดีกว่าค่ะ


วิธีเลือกแป้งพัฟให้เข้ากับสีผิว


- Loose Powder เหมาะกับสาวผิวมันที่ไม่มีริ้วรอยให้ต้องปกปิด เพราะดีที่บางเบาแต่ก็ไม่ติดทนนานหน้ามันปุ๊บก็หยิบแปรงมาปัดกันได้ใหม่



- Two Way Powder เหมาะกับสาวที่ชอบความสะดวกได้ทั้งการปกปิดริ้วรอยและเพิ่มความเนีบยใสเพราะผสมรองพื้นในตัว พกพาสะดวกปกปิดริ้วรอย จุดบกพร่องได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและสีผิว จะได้นวลเนียนเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา



- Pressed Powder คุณสมบัติเหมือน Loose Powder แต่ใช้สะดวกกว่าเพราะอัดแข็งอยู่ในตลับ เหมาะกับผิวค่อนข้างดีอยู่แล้วเพราะระดับความปกปิดน้อยและไม่ค่อยติดทนนาน



วิธีทดลองสีแป้งพัฟ


ให้ใช้พัฟใหม่สำหรับทดลองสีแป้งทาที่แถวๆ ช่วงข้างแก้ม เลือกสีที่กลมกลืนกับสีผิวที่สุด รู้นะว่าอยากให้ผิวหน้าดูขาวแต่การเลือกแป้งให้ขาวกว่าผิวหน้าจริงกลับทำให้ดูหลอกตา เลือกสีให้ใกล้เคียงกับสีผิวจะดีกว่า



วิธีดูส่วนผสมของแป้ง


ปัจจุบันมีแป้งหลากชนิดและหลากสีให้เลือกใช้ แต่อีกเรื่องที่ควรใส่ใจคือส่วนผสมในเนื้อแป้ง ถ้าอยากผิวขาวขึ้นแทนที่จะเลือกแป้งสีขาวหลอกตาก็มาเลือกแป้งที่มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวหน้าให้ขาวใสสุขภาพดีจากภายในจะดีกว่า


ขอขอบคุณข้อมูลจาก ladyissue ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต


ผิวหน้าแพ้ง่าย เลือกเครื่องสำอางอย่างไรดี?



หากว่าผิวหน้าแพ้ง่ายสิ่งแรกที่คุณผู้หญิงทั้งหลาย ควรจะต้องเลือกและระมัดระวังและต้องพิถีพิถันกันอย่างมากคือ การเลือกซื้อเครื่องสำอางนั้นเองค่ะ เพราะคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงเรานั้นจะต้องใช้เครื่องสำอางในการแต่งใบหน้าแถบจะทุกวันก็ว่าได้ฉะนั้นแล้วเราก็ต้องพิถีพิถันกันหน่อยเพราะยิ่งคุณเป็นคน ผิวหน้าแพ้ง่าย ด้วยแล้ว นั้นเรามาฟังเคล็ดลับในการเลือกเครื่องสำอางสำหรับผิวหน้าแพ้ง่ายกันดีกว่าค่ะ

10 เคล็ดลับ เพื่อ ผิวหน้าแพ้ง่าย


1.เลือกแบบแป้งดีกว่าแบบเหลว เนื่องจากผลิตภัณฑ์ชนิดแป้งสามารถที่จะช่วยดูดซับความมันของผิวหนังได้ และยังมีส่วนประกอบจำพวกสารกันเสียและสารชนิดอื่น ๆ ในปริมาณที่น้อย ทำให้โอกาสที่จะเกิดการแพ้หรือการระคายเคืองน้อยกว่าชนิดที่เป็นน้ำ 



2.หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางกันน้ำ เพราะเครื่องสำอางสำหรับเช็ดคราบชนิดที่กันน้ำนั้น ต้องมีองค์ประกอบของสารละลายอินทรีย์หลายชนิดผสมกันโอกาสที่จะทำให้ผิวหนังเกิดอาการแพ้และระคายเคืองจึงมีมาก



3.อย่าใช้เครื่องสำอางเก่าและหมดอายุ สังเกตวันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ ถ้าสินค้าเก่าเก็บจนเลยวันหมดอายุอย่าซื้อใช้โดยเด็ดขาด หรือหากซื้อมาใช้และใช้นานเป็นปีจนเลยวันหมดอายุก็ควรโยนทิ้งไม่ต้องเสียดาย เพราะอาจนำผลร้ายมาสู่สุขภาพผิวหนังได้


4.การเลือกใช้ดินสอเขียนขอบตาและมาสคาร่า ควรเลือกเป็นสีดำจะปลอดภัยกว่าสีอื่น ๆ และโอกาสแพ้จะมีน้อยกว่า

5.ใช้ดินสอเขียนขอบตาและคิ้ว ดีกว่า eyeliner ชนิดเหลว ผลิตภัณฑ์ชนิดแท่ง เช่น ดินสอ จะมีองค์ประกอบหลักจำพวกแวกซ์ และองค์ประกอบอื่น ๆ อีกเล็กน้อย ทำให้โอกาสแพ้ลดลงแถมยังล้างออกง่ายกว่า

6.เลือกใช้สีทาเปลือกตาชนิดเอิร์ทโทนจะระคายเคืองน้อยกว่าสีโทนอื่นๆ สีในกลุ่มเอิร์ทโทน เช่น สีแทน สีครีม สีขาว หรือสีเนื้ออ่อนจะทำให้โอกาสในการเกิดการแพ้หรือระคายเคืองน้อยกว่าสีชนิดอื่น ๆ เพราะสีเข้มมาก ๆ มักจะได้จากการผสมเคมีหลาย ๆ ชนิดเข้าด้วยกันโอกาสแพ้จึงมีสูงกว่า

7.ตรวจสอบสารกันแดดว่าปลอดภัยหรือไม่ โดยทั่วไป FDA และแพทย์ผิวหนังมักจะแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ประมาณเบอร์ 15 และต้องสามารถกรองได้ทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายไม่แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดชนิดที่เป็นสารเคมี ควรเลือกใช้ครีมกันแดดชนิดที่สะท้อนรังสี หรือที่เรียกกันว่า Physical sunscreen ซึ่งมีผลแป้งไทเทเนียมไดออกไซด์ (TiO2) และ ZnO เป็นองค์ประกอบ


8.เลือกเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมน้อยกว่า 10 ชนิด เป็นหลักการง่าย ๆ ว่า ถ้ามีส่วนประกอบน้อยโอกาสที่จะแพ้หรือระคายเคืองก็ย่อมจะน้อยเป็นธรรมดา


9.อย่าให้ยาทาเล็บโดนผิวอ่อนบางหรือเยื่อบุ เวลาที่เราทำเล็บและเล็บยังไม่แห้งดีเราอาจจะเอาเล็บไปโดนใบหน้าหรือตาซึ่งทำให้มีโอกาสแพ้สูง เพราะเป็นผิวหนังที่อ่อนไหวและบอบบางจึงควรระวังเวลาใช้ทุกครั้ง


10.เลือกครีมรองพื้นชนิดที่มีซิลิโคน ถ้าจำเป็นต้องใช้ครีมรองพื้นชนิดเหลวก็แนะนำให้เลือกชนิดที่มีองค์ประกอบเป็นน้ำมันซิลิโคน เพราะสารซิลิโคนได้ผ่านการวิจัยมานานแล้วว่าไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ต่อผิวหนังเลย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก อสมท. ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต


เคล็ดลับเลือกสีไพร์เมอร์ ให้เหมาะกับสีผิว

สับสนกับสีของไพร์เมอร์ จะเลือกโทนสีไหนให้ตัวเองดี มีคำแนะนำมั้ยคะ? 

          จริง ๆ แล้ว คุณสามารถเลือกสีสันต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ ตราบใดที่แต่งออกมาแล้วดูดี แต่ก็มีข้อพึงระวังเล็กน้อย จึงขออธิบายตามลักษณะสีผิวของแต่ละคนไปเลยดังนี้

        ถ้าผิวหน้าของคุณออกโทนแดง ๆ หรือมีรอยแดง ๆ บริเวณจมูก หน้าผาก คาง ฯลฯ คุณก็ไม่จำเป็นต้องระวังเรื่องสีสันของเครื่องสำอาง แค่ใช้ไพร์เมอร์โทนสีเขียวกลบเกลื่อนรอยแดง ๆ ซะก่อนเท่านั้น


        ถ้าผิวหน้าของคุณออกโทนเหลือง คุณก็ต้องใช้ไพร์เมอร์โทนสีม่วงกลบเกลือนเงาคล้ำให้หมดก่อน การใช้โทนสีบรอนซ์แต่งบริเวณตาจะช่วยผิวโทนเหลืองดูอบอุ่นขึ้นได้


        ถ้าผิวหน้าของคุณออกโทนฟ้า ๆ เทา ๆ (มักจะพบมากในคนผิวขาว) ซึ่งมักมองเห็นเส้นเลือดใต้ผิวได้นั้น คุณก็ต้องเลือกไพร์เมอร์โทนสีแอ๊ปปริคอต และพยายามหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางโทนสีม่วงบริเวณตา


        ถ้าผิวหน้าของคุณออกโทนชมพู ก็ควรเลือกไพร์เมอร์โทนสีเขียวแบบเดียวกับสาวที่ออกโทนแดง ๆ และพยายามหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอางโทนสีชมพูอ่อนหรือแอ๊ปปริคอต เพราะจะยิ่งขับให้เห็นสีชมพูชัดขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลจากLisa

สูตรผิวสวยหน้าใส เปล่งปลั่งอย่างแท้จริง


วันนี้เรานำสูตรผิวสวยหน้าใสมาให้คุณผู้หญิงได้ดูเปล่งปลั่งอย่างแท้จริงมาฝากค่ะ ที่สำคัญ สูตรผิวสวยหน้าใส นี้คุณยังสามารถทำเองได้ที่บ้างเป็นสูตรแบบธรรชาติ ๆ ที่ไม่ต้องพึ่งสารเคมีกันเลยและใช้ได้ผลจริง ที่สำคัญวัตถุดิบก็หาซื้อได้ง่าย ๆ อีกด้วยค่ะ น่าสนใช่ไหมล่ะค่ะ นั้นเราก็มาลองสูตรผิวสวยหน้าใสเปล่งปลั่งอย่างแท้จริงเพื่องให้คุณได้เป็นเจ้าของผิวพรรณอย่างที่คุณต้องการดีไหมล่ะค่ะ

8 สูตรผิวสวยหน้าใส

1. น้ำตาลทราย ใช้น้ำตาลทรายผสมกับน้ำมันมะกอกเพื่อขัดผิว เกล็ดน้ำตาลทรายจะช่วยขัดลอกเซลล์ผิวเก่าและทำให้ผิวนุ่มขึ้น ขณะที่น้ำมันมะกอกจะทำให้ผิวชุ่มชื่น

2. ข้าวโอ๊ตและนม ผสมข้าวโอ๊ตกับนมแบบไม่พร่องมันเนยทาให้ทั่วใบหน้าและปล่อยให้แห้งราว 10-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด

3. โยเกิร์ต ทาโยเกิร์ตแบบธรรมชาติลงให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 15 นาที ไม่เพียงแต่ผิวจะรู้สึกสดชื่นมันยังทำให้ผิวของคุณนุ่มนวลและเรียบลื่นอีกด้วย

4. กล้วยหอม บดให้ละเอียดและผสมกับนมสดทาทั่วใบหน้าและทิ้งไว้ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็นแล้วรอดูผิวที่เปล่งปลั่งได้เลย

5. น้ำผึ้ง ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นผิวคุณจะนุ่มนวลและเปล่งปลั่ง

6. ไข่ ผสมไข่ดิบกับน้ำผึ้งทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

7. มะละกอ บดละเอียดแล้วพอกลงบนใบหน้า ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก

8. แป้งข้าวโพด ผสมกับไข่ขาวและทาทั่วใบหน้าเมื่อใบหน้าแห้งซึ่งใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง ใช้นิ้วจุ่มน้ำอุ่นและนวดให้ทั่วก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาด


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

สูตร! หน้าใสไร้สิว

สาวๆ ก็สามารถมีหน้าใสไร้สิวได้แม้ว่า สภาวะแวดล้อมช่วงนี้จะไม่เอื้ออำนวยนัก เดี๋ยวฝนตก แดดออก อากาศเริ่มหนาว หรือแม้แต่เรื่องกรรมพันธ์ก็ไม่เป็นอุปสรรค์ที่จะทำให้คุณมี หน้าใสไร้สิว เช่นกัน เพราะวันนี้เรามีวิธีที่จะให้คุณรับมือกับปัญหา สิว สิว ที่คุณไม่อยากให้มันต้องเกิดขึ้นบนใบหน้าของคุณด้วย สูตรหน้าใสไร้สิว ของเราแล้วคุณก็จะไม่มีสิวอีกต่อไปค่ะ หากคุณปฏิบัติตาม สูตรหน้าใสไร้สิว อย่างเคร่งครัดรับรองว่า คุณจะมีใบหน้าใสไร้สิวได้อย่างง่ายดายกันเลยทีเดียวค่ะ

สาเหตุการเกิดสิว


1.ปัจจัยภายใน

- พันธุกรรม 

- ภาวะร่างกายผิดปกติ เช่น เครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ ท้องผูก

- ฮอร์โมนต่างๆ ทั้งฮอร์โมนเพศชาย ที่กระตุ้นต่อมไขมันให้ขับไขมันส่วนเกินออกมาจนเกิดการอุดตัน และฮอร์โมนเพศหญิงที่เปลี่ยนแปลงในช่วงก่อนมีประจำเดือน



2.ปัจจัยภายนอก

มลภาวะที่เราต้องเผชิญในแต่ละวัน ทั้งฝุ่นละออง ควันพิษ หรือแม้กระทั่งสารเคมีต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สเปรย์ฉีดผม ยาฆ่าแมลง รวมถึงคราบเครื่องสำอางที่ทำความสะอาดไม่หมดทำให้รูขุมขนอุดตันจนเกิดเป็นสิวได้


วิธีทำหน้าใสไร้สิว


1. ความสะอาดเป็นปราการป้องกันสิวด่านแรก ก่อนล้างหน้าสาว ๆ ควรล้างคราบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่เผชิญมาตลอดทั้งวัน ด้วยน้ำมันเนื้อเจลที่มี Bi-Continuous ช่วยทำความสะอาดผิวและสารตกค้างในรูขุมขนได้อย่างหมดจด ยิ่งถ้ามีส่วนผสมของ Ac Control Oil และ Tricocaban จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบพร้อมคืนความชุ่มชื่นให้แก่ผิวได้ด้วย 



2. ล้างหน้าด้วยสบู่ที่ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งหรือมันจนเกินไป ด้วยเทคนิคง่ายๆ เพียงถูสบู่ลงบนฝ่ามือให้เกิดฟองนุ่มๆ แล้วนำฟองนั้นมาล้างหน้าอย่างเบามือ จำไว้ว่า การล้างหน้าอย่างรุนแรงจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองจนสิวลุกลามในที่สุด  



3. หลังจากล้างหน้าผิวอาจสูญเสียความชุ่มชื้นไปบ้าง จึงควรเช็ดผิวด้วยโลชั่นเพื่อปรับสมดุลและเรียกความชุ่มชื่นก่อนการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป 



4. ถึงคราวเติมความชุ่มชื่นและป้องกันสิวด้วยการเลือกโลชั่นบำรุงผิวชนิด Oil-Free ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและลดการทับถมตัวของเซลล์ผิวเสื่อมสภาพที่จะก่อให้เกิดการแพร่ตัวของแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของสิว 



5. สุดท้ายเพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้นไปกับการนอนในห้องปรับอากาศ แนะนำให้เก็บกักความชุ่มชื้นด้วยแป้งถนอมผิวที่มี Sulfer ช่วยลดการก่อตัวของสิวและ Hydrophobic Coating Powder ช่วยดูดซับซีบัมส่วนเกินและเอนไซม์ต่างๆ ที่ออกมาทำร้ายผิวยามหลับไหล


ขอขอบคุณข้อมูลจาก สุดสัปดาห์ ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

การเลือกใช้ไนท์ครีม

ปัจจุบันการเลือกใช้ไนท์ครีมเป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้น หลายคนอาจจะส่งสัยเมื่อเวลาไปซื้อ เดย์ครีม กับ ไนท์ครีม มันต่างกัน อย่างไร ที่ต่างกันก็คือ เดย์ครีม จะใช้ตอนกลางวัน ส่วน ไนท์ครีม จะใช้ตอนกลางคืน แต่ก็อาจจะมีคำถามต่อไปว่า ใช้ทั้งอย่างเดียวทั้งกลางวันกลางคือไม่ได้เหรอ คำตอบคือได้ค่ะแต่ไม่เหมาะสมอาจเกิดผลข้างเคียงได้เพราะว่าเค้าผลิตมาโดยเฉพาะ แต่วันนี้เราจะพามารู้จักกับ การเลือกใช้ไนท์ครีม เพื่อให้คุณผู้หญิงเข้าใจมากขึ้นค่ะ


วิธี การเลือกใช้ไนท์ครีม


1. ควรเลือกไนท์ครีมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินอี วิตามินซี เพราะตลอดทั้งวันผิวหน้าของคนเรา ต้องเผชิญกับมลภาวะมากมาย ซึ่งก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ตัวการสำคัญในการทำลายเซลล์ผิวหน้า



2. ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย ควรเลือกไนท์ครีมที่มีส่วนผสมของ Q10 ซึ่งยับยั้งการสร้างเอนไซม์ทำลายคอลลาเจน ขณะเดียวกันก็ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว



3. ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยมากๆ ควรเลือกไนท์ครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอล ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพ และกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน จะช่วยลดริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้าลงได้



4. เมื่อเลือกใช้ไนท์ครีมที่เหมาะสมกับตัวเองได้แล้ว อย่าลืมบำรุงผิวรอบดวงตาด้วยอายครีม เพราะคงไม่มีใครอยากตื่นมาตาดำเป็นหมีแพนด้าแน่ๆ



เป็๋นไงบ้างคะ ไนท์ครีมก็มีประโยชน์เหมือน ๆ กับเดย์ครีม สาว ๆ น่าจะลองมาให้ความสำคัญกับไนท์ครีมบ้างนะคะ...


ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต



กำจัดสิว ต้นเหตุที่แท้จริง

มีคำพูดอยู่หนึ่งคำที่เรามักคุ้นหูกับคำพูดที่ว่า เรื่องสิวเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถึงจะเป็นเรื่องธรรมชาติอย่างไรก็คงที่จะอดกังวลใจอยากกำจัดสิวไปโดยเร็วใช่ไหมล่ะค่ะ และยิ่งหากว่าต้องออกไปเข้าสังคมสังสรรคเกิดเป็นสิวเต็มหน้ารองพื้นชนิดใดเฉดสีไหนก็เอาไม่อยู่จะยิ่งทำให้กังวลใจกันไปใหญ่เลย กลัวคนทักบ้าง กลัวคนว่าบ้าง กลัวคนนินทา ยิ่งทำให้รู้สึกอับอายไปกันใหญ่ วันนี้เรามา กำจัดสิว ต้นเหตุที่แท้จริงด้วยกันเถอะค่ะ แล้วคุณจะได้ไม่ต้องพบเจอกับเรื่องสิว ๆ ที่ไม่สิวถ้าเกิดมาเจอบนหน้าของคุณอีกต่อไปค่ะ แล้วเมื่อ กำจัดสิว ได้แล้วต่อไปก็เดินเชิดหยิ่งกันได้แล้วค่ะ เอาชนิดที่เรียกว่า ไม่สวย ไม่เริด ไม่ได้หรอก อิอิอิ

กำจัดสิว

ดร.เมอร์ฟราน เมลการ์ สมาชิกสมาคม โรคผิวหนังของประเทศฟิลิปปินส์ อธิบายสาเหตุของการเกิดสิวว่า สิว เกิดจากการเจริญเติบโตของ follicular ที่เปลี่ยนแปลงไปทําให้มีการผลิตซีบัมเพิ่มขึ้น
แบคทีเรีย ที่ชื่อว่า Propionibacterium acnes จึงเจริญเติบโตได้ดีและทําให้เกิดการอักเสบในที่สุด มีความซับซ้อนและรุนแรงแต่ในความเป็นจริง สิว เกิดจากสารเคมีในผิวหนังมนุษย์ซึ่งถูกกระตุ้นได้โดยแบคทีเรียที่ซุกซน การผลิตซีบัมที่มากเกินจะไปอุดตันรูขุมขนทําให้เป็นที่อาศัยของแบคทีเรียจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ รูขุมขนจึงเกิดการอักเสบและเกิดผลที่ไม่น่ายินดีนัก ซึ่งก็คือ สิว นั่นเอง

โดยปกติสิวที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นจะเป็นผลเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนตามพัฒนาการของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ทั้งชายและหญิงที่ย่างเข้าสู่วัย 30 และมากกว่านั้นอาจยังต้องทรมานกับโรคผิวหนังชนิดนี้อยู่ กุญแจสําคัญในการป้องกันและจัดการกับปัญหานี้คือ การเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการรักษา

วิธีรักษาสิวบนใบหน้า


วิธีการรักษาสิวที่ได้ผลในช่วงเวลาดังกล่าวอาจช่วยป้องกันการเกิดสิวได้ซึ่งก็นําเราเข้าไปสู่ทฤษฎีที่คุ้นเคยกันว่า การล้างหน้าบ่อย ๆ ช่วยลดการเกิดสิวได้ สําหรับการล้างหน้าด้วยสบู่ที่ไม่ผสมไขมันหรือเคลนเซอร์ทําความสะอาดใบหน้าซึ่งจะช่วยลดซีบัมได้แล้ว ทาด้วยโทนเนอร์หรือน้ำยาทําความสะอาดหลังล้างหน้าจากนั้นตามด้วยยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ เพียง 3 ขั้นตอนที่ช่วยควบคุมการเกิดสิว รักษาสิว และช่วยให้หน้าใสเปล่งประกายผิวสุขภาพดี


ขอขอบคุณข้อมูลจาก daradaily ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต


วิธีแก้ข้อศอกดำ ด้าน ให้นุ่มเนียน


วันนี้เราอยากจะเสนอวิธีแก้ข้อศอกดำ ด้าน ให้นุ่มเนียน เพราะเรารู้ดีว่าคุณหญิงหลายคนอาจจะกำลังประสบกับปัญหา ข้อศอกดำ ข้อศอกด้าน เพราะบ้างครั้งอาจจะเผลอเลอเท้าโต๊บ้าง เท้าหน้าต่างรถเมย์บ้าง หรือแม้กระทั่งการละเลยที่จะดูแลข้อศอกของคุณเป็นสาเหตุให้ข้อศอกดำและด้านกันเลยทีเดียวค่ะ แต่ปัญหานี้ของคุณกำลังจะหมดไปค่ะเพราะวันนี้เรามี วิธีแก้ข้อศอกดำ ด้าน ให้กลับมานุ่มเนียนอีกครั้งค่ะ ด้วย วิธีแก้ข้อศอกดำ ด้าน จะช่วยคุณผู้หญิงให้มีข้อศอกนุ่ม ๆ ไร้ทีติกันเลยทีเดียวค่ะ



วิธีแก้ข้อศอกดำ ด้าน



วิธีหลีกเลี่ยง คือ อย่าให้ศอกไปเสียดสีกระแทกกับสิ่งต่าง ๆ ไม่เท้าศอกบนโต๊ะ เพราะจะทำให้ศอกด้านได้ง่าย ๆ แต่ถ้าหากว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็มีวิธีแก้ คือ หลังจากทำความสะอาดข้อศอกเสร็จให้นำมะนาวที่บีบนำออกแล้วเอาส่วนเปลือกมาถูกบริเวณข้อศอกจากนั้นก็แช่เปลือกมะนาวกับข้อศอกซัก 10-15 นาที จากนั้นล้างออก มะนาวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า ๆ ให้หลุดออกและยังทำให้ผิวขาวขึ้น จากนั้นนำโลชั่นถนอมผิวมาทาบริเวณข้อศอกให้หนาพอประมาณ (เลือกที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง) จากนั้นนำพลาสติกมาหุ้มข้อศอกเอาไว้เพื่อสร้างไอและความเปียกชื้นให้กับข้อศอก ทิ้งไว้สัก 15-30 นาที แล้วเอาพลาสติกออก ข้อศอกก็จะซึมซับเอาครีมบำรุงเข้าไปได้มากกว่าปกติทำเป็นประจำข้อศอกของคุณก็จะเนียนนุ่มขึ้นไม่ด้านและดำอีกต่อไปค่ะ



สำหรับวิธีแก้ข้อศอกดำ ด้าน ให้นุ่มเนียน สามารถที่จะใช้กับส่วนหัวเข่าได้เช่นเดียวกันค่ะ รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมนำไปใช้กันลองดูนะค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต



เลือกโฟมล้างหน้า ให้ถูกวิธี 


การเลือกโฟมล้างหน้าสูตรที่เหมาะกับผิวก็มีความสำคัญมาก เพราะส่วนประกอบที่เหมาะสม ช่วยให้โฟมล้างหน้าทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ผิวมัน ต่อมไขมันบนใบหน้าได้ผลิตไขมันออกมามากเกินไป ทำให้ใบหน้ามัน และมีปัญหาต่างๆ ตามมา เราจึงไม่ควรเลือกโฟมที่แรงเกินไป จนล้างแล้วรู้สึกว่าใบหน้าแห้งแบบไม่เหลือความชุ่มชื้นไว้เลยนะคะ ควรซื้อแบบที่มีคำว่า ออยล์โซลูชั่น หรือ สูตรควบคุมความมันค่ะ


ผิวแห้ง เป็นผิวที่ขาดความชุ่มชื้น เพราะไม่ค่อย
มีไขมันตามธรรมชาติ หรือผิวหน้าคุณอาจสัมผัสกับแสงแดด หรือลมแรงบ่อยๆ และขาดการดูแลอย่างเหมาะสม เลือกใช้ครีมล้างหน้าหรือโฟมล้างหน้าที่มีมอยส์เจอร์ผสมอยู่ด้วยสิคะ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวไว้
เสมอค่ะ

ผิวธรรมดา ง่ายที่สุดค่ะ สามารถเลือกใช้ได้หลายประเภทมากกว่าโดยไม่ต้องระวังมากว่าจะทำให้ผิวแพ้หรือแห้งไป แต่ต้องเลือกที่ถนอมผิวคุณด้วยนะคะ

ผิวคล้ำ แสงแดดและมลพิษเป็นตัวหลักของผิวหมองคล้ำ โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินบี 3 และ บี 6 จะช่วยลดการสะสมของเม็ดสีผิมคล้ำที่อยู่ในชั้นผิว ส่วนวิตามินซีและอี จะช่วยปรับ
สภาพผิวและลดผลกระทบของอนุมูลอิสระที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวหน้าค่อยๆ ปรับ
สภาพขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

สำหรับคนที่มีปัญหาสิวเสี้ยน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดบีดส์ จะช่วยทำความสะอาดผิวตามร่องลึกของผิว ช่วยผลัดผิวโดยไม่ทำลายสมดุลน้ำหล่อเลี้ยงผิว และถ้ามีวิตามินซีด้วยจะยิ่งดีใหญ่ค่ะ 

ใบหน้าที่มีปัญหาเรื่องสิว ใช้โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินอีและซี จะช่วยลบเลือนรอยแผลเป็น จุดด่างดำจะค่อยๆ จางลง และควรเลือกโฟมล้างหน้าสูตรที่ทำความสะอาดล้ำลึก ลด
สาเหตุของการอุตตันโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง

ผิวที่มีรูขุมขนกว้าง ควรใช้มาส์กพอกหน้าเป็นครั้งคราวค่ะ (ดูสูตรพอกหน้าได้จากในเวบเราค่ะ มีเยอะเลยเลือกตามความเหมาะสมนะค) จะช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ผิวเนียนเรียบ นอกจากนี้ให้ใช้โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของโทนเนอร์จากธรรมชาติหรือเช็ดผิวด้วยโทนเนอร์หลังล้างหน้าก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยทำให้รูขุมขนเล็กลงค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต 







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น